เมนูนำทาง
การ์โลส อัลการัซ การเล่นอาชีพด้วยวัย 16 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 อัลการัซลงแข่งขันอาชีพครั้งแรก ณ นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งเขาเอาชนะรุ่นพี่ร่วมชาติอย่างอัลเบร์ต ราโมส บิญโญลัส[9] ในรอบแรกก่อนจะตกรอบที่สองโดยแพ้เฟเดริโก โกเรียจากอาร์เจนตินา
ในวัย 17 ปี อัลการัซได้ลงแข่งขันในระดับแกรนด์สแลมครั้งแรกในรายการออสเตรเลียนโอเพน และถือเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์รายการที่ได้ลงแข่งขันในประเภทชายเดี่ยว[10] เขาผ่านรอบแรกด้วยการเอาชนะโบติค ฟาน เดอ แซนชุลป์จากเนเธอร์แลนด์แต่ตกรอบที่สองโดยแพ้มิคาเอล อีเมอร์ชาวสวีเดน
ต่อมา อัลการัซทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่คว้าชัยชนะในรายการมาสเตอร์ 1000 คอร์ตดินที่กรุงมาดริด โดยเอาชนะอาเดรียน มานนาริโนจากฝรั่งเศส ทำลายสถิติของราฟาเอล นาดัล ซึ่งมีอายุ 18 ปีใน ค.ศ. 2004 และเขาตกรอบที่สองโดยแพ้ตำนานรุ่นพี่อย่างนาดัลในรอบต่อมา ซึ่งตรงกันคล้ายวันเกิดครบ 18 ปีของเขา[11] เขาชนะเลิศการแข่งขันรายการที่ใหญ่ที่สุดในอาชีพขณะนั้นที่โปรตุเกส ทำสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ขึ้นสู่ 100 อันดับแรกของโลกในวัย 18 ปี วันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2021[12]
อัลการัซเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ (8 คนสุดท้าย) ในระดับแกรนด์สแลมครั้งแรกในเฟรนช์โอเพน ณ กรุงปารีส ต่อมาในเดือนกรกฎาคม เขาคว้าแชมป์ที่โครเอเชีย และทำสถิติเป็นนักเทนนิสชาวสเปนที่อายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์ในการแข่งขันของเอทีพี ทำลายสถิติเดิมของนาดัลใน ค.ศ. 2004 ก่อนที่เขาจะตกรอบที่สองในแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน โดยแพ้ ดานีอิล เมดเวเดฟ และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการเอทีพี 250 ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนาแต่แพ้อีเมอร์จากสวีเดนไปอีกครั้ง
ต่อมาในแกรนด์สแลมยูเอสโอเพน เขาเอาชนะผู้เล่นชื่อดังชาวกรีกอย่างสเตฟาโนส ซิทซีปัส ในการแข่งขันห้าเซตผ่านเข้าสู่รอบที่ 4 ถือเป็นชัยชนะที่ใหญ่ที่สุดในอาชีพของเขา ณ ขณะนั้น[13] และสร้างสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่เข้าสู่รอบที่สี่ในเทนนิสแกรนด์สแลม แทนสถิติเดิมของไมเคิล ชาง และตำนานชาวอเมริกันอย่างพีต แซมพราสใน ค.ศ. 1989[14] และเขายังทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในยุคโอเพน[lower-alpha 2] ที่เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศรายการนี้ ต่อจากโธมัซ คอคชาวบราซิลในวัย 18 ปีเมื่อ ค.ศ. 1963 อย่างไรก็ตาม เขาต้องขอยอมแพ้จากการแข่งขันที่พบกับเฟลิกซ์ โอเฌร์ อาลียาซีมจากแคนาดา เนื่องจากบาดเจ็บที่ขา[15] ต่อมา เขาเอาชนะมือวาง 10 อันดับแรกของโลกได้เป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่เล่นอาชีพ ด้วยการเอาชนะมัตเตโอ เบเรตตินี ชาวอิตาลีในการแข่งขันที่กรุงเวียนนา และขึ้นสู่ 35 อันดับแรกของโลกได้เป็นครั้งแรก ถือเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำได้ ถัดมาในการแข่งขันมาสเตอร์ 1000 ที่ปารีส เขาเอาชนะยานนิค ซินเนอร์ จากอิตาลีได้ ถือเป็นการชนะผู้เล่นสิบอันดับแรกของโลกเป็นครั้งที่สาม เขาปิดท้ายฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์เอทีพีไฟนอล ในระดับเยาวชน (Next gen Final) เอาชนะดาวรุ่งชาวอเมริกันอย่างเซบาสเตียน คอร์ดาในรอบชิงชนะเลิศ
อัลการัซได้รับการจัดอันดับเป็นผู้เล่นมือวางครั้งแรกในรายการแกรนด์สแลมปีนี้ เขาเข้าสู่รอบที่สามในรายการออสเตรเลียนโอเพนก่อนจะแพ้เบเรตตินีในการแข่งขันห้าเซต แต่เขาคว้าแชมป์ระดับเอทีพี 500 ได้เป็นครั้งแรกด้วยการเอาชนะดิเอโก ชวาสมัน ในรอบชิงชนะเลิศที่รีโอเดจาเนโร และขึ้นสู่ 20 อันดับแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ตามด้วยการเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศรายการเอทีพีมาสเตอร์ 1000 ครั้งแรกที่อินเดียนเวลส์ ก่อนจะแพ้นาดัล
เขาคว้าแชมป์มาสเตอร์ 1000 ครั้งแรกด้วยการชนะกาสเปอร์ รืด จากนอร์เวย์ที่ไมแอมี ทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์รายการนี้ และเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสามที่ชนะเลิศรายการมาสเตอร์[16] แต่เขาแพ้คอร์ดาในรายการมาสเตอร์ที่มงเต-การ์โล[17] ภายหลังจากเอาชนะซิทซีปัสในรอบก่อนรองชนะเลิศที่บาร์เซโลนา เขาขึ้นสู่ตำแหน่ง 10 อันดับแรกของโลกเป็นครั้งแรกในวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 2022[18] เขาถือเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนที่ 20 ในประวัติศาสตร์ที่ขึ้นสู่มือวาง 10 อันดับแรก นับตั้งแต่มีการนำระบบจัดอันโลกมาใช้ใน ค.ศ. 1973 และเป็นมือวาง 10 อันดับที่อายุน้อยที่สุดนับตั้งแต่นาดัลทำสถิติไว้ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2005[19] เขาคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะรุ่นพี่ร่วมชาติอย่างปาโบล การ์เรโญ บุสตา
ในวันเกิดครบรอบ 19 ปีของอัลการัซ เขาเอาชนะนาดัลในการแข่งขันมาสเตอร์ที่มาดริด ทำสถิติเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนแรกที่เอาชนะนาดัลบนคอร์ตดินได้ ตามด้วยการเอาชนะมือวางอันดับหนึ่งอย่าง นอวาก จอกอวิช ในรอบรองชนะเลิศ ทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่เอาชนะผู้เล่นมือวางอันดับหนึ่งนับตั้งแต่ ค.ศ. 2004 และเป็นผู้เล่นคนแรกที่เอาชนะได้ทั้งนาดัลและจอกอวิชติดต่อกันบนคอร์ตดิน[20] เขาคว้าแชมป์รายการที่สี่ในปีนี้ และเป็นแชมป์มาสเตอร์ 1000 รายการที่สองโดยเอาชนะอเล็คซันเดอร์ ซเฟเร็ฟ ถือเป็นแชมป์ที่อายุน้อยที่สุดในรายการ ส่งผลให้เขาขึ้นสู่อันดับหกของโลกในวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 ก่อนจะถอนตัวจากรายการมาสเตอร์ที่โรมเนื่องจากบาดเจ็บข้อเท้า[21] เขาเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศในเฟรนช์โอเพน ก่อนจะแพ้ซเฟเร็ฟ[22] และแพ้ซินเนอร์ในรอบที่สี่ในวิมเบิลดัน
อัลการัซขึ้นสู่มือวางอันดับ 5 ของโลกเป็นครั้งแรกในวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 ถือเป็นผู้เล่นที่ทำอันดับติด 1 ใน 5 ที่อายุน้อยที่สุดตั้งแต่นาดัลทำได้ใน ค.ศ. 2005 แต่เขาแพ้ลอเรนโซ มูเซตติ จากอิตาลีในรอบชิงชนะเลิศที่ฮัมบวร์ค เป็นการแพ้รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในอาชีพ แต่เขาขึ้นสู่มือวางอันดับสี่ในเดือนถัดมาหลังจากเข้ารอบชิงชนะเลิศที่โครเอเชีย เขาลงแข่งขันแกรนด์สแลมยูเอสโอเพนในฐานะมือวางอันดับสาม และจากการเอาชนะมาร์รีน ชิลิคในรอบที่สี่ อัลการัซทำสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่เข้ารอบแปดคนสุดท้ายในรายการนี้สองปีติดต่อกันในยุคโอเพน[23] เขาเอาชนะซินเนอร์ในรอบต่อมาโดยต้องเซฟแต้ม Match Point ซึ่งนัดนี้ใช้เวลาแข่งขันไปถึง 5 ชั่วโมงและ 15 นาที ถือเป็นการแข่งขันที่นานที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์รายการ[24] และเขาคว้าแชมป์รายการใหญ่ที่สุดในการเล่นอาชีพ และเป็นแชมป์แกรนด์สแลมครั้งแรกด้วยการเอาชนะกาสเปอร์ รืด จากนอร์เวย์ในรอบชิงชนะเลิศ 3–1 เซต ขึ้นสู่มือวางอันดับหนึ่งของโลกเป็นครั้งแรกในอาชีพ และสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นมือวางอันดับหนึ่งที่อายุน้อยที่สุดของเอทีพีด้วยวัย 19 ปี 4 เดือน และ 6 วัน ทำลายสถิติเดิมของเลย์ตัน ฮิววิตต์ เขายังเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนแรกในยุคโอเพนที่ขึ้นสู่ตำแหน่งอันดับหนึ่ง และเป็นแชมป์รายการนี้ที่อายุน้อยที่สุดต่อจากพีต แซมพราสใน ค.ศ. 1990[25]
อัลการัซแพ้ต่ออาลียาซีมในรอบชิงชนะเลิศเทนนิสเดวิส คัพ[lower-alpha 3][26] ตามด้วยการตกรอบแรกที่อัสตานา และเข้ารอบรองชนะเลิศที่บาเซิลก่อนจะแพ้อาลียาซีมไปอีกครั้ง[27] เขาถอนตัวในรอบแปดคนสุดท้ายการแข่งขันมาสเตอร์ที่ปารีสเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ในวันถัดมาเขาประกาศว่าได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อท้องฉีกขาด และต้องพักการแข่งขันประมาณหกสัปดาห์ ส่งผลให้เขาต้องถอนตัวจากการแข่งขันสองรายการสำคัญท้ายฤดูกาลในเอทีพีไฟนอล และเทนนิสเดวิสคัพ[28] อย่างไรก็ตาม เขายังปิดฤดูกาลด้วยตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่ง ถือเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่จบฤดูกาลด้วยตำแหน่งนี้ด้วยวัย 19 ปีและ 214 วัน[29]
อัลการัซต้องถอนตัวจากแกรนด์สแลมออสเตรเลียนโอเพนเนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังจากการฝึกซ้อม[30] เขาเสียตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่งให้แก่จอกอวิชซึ่งคว้าแชมป์ออสเตรเลียนโอเพนได้[31] อัลการัซครองตำแหน่งอันดับหนึ่งครั้งแรกในอาชีพรวม 20 สัปดาห์ ต่อมา เขาคว้าแชมป์รายการที่เจ็ดในอาชีพในการแข่งขันเอทีพี 500 ที่บัวโนสไอเรส เอาชนะคาร์เมรอน นอร์รีย์ จากสหราชอาณาจักรในรอบชิงชนะเลิศ 2–0 เซต[32] ก่อนจะแพ้นอร์รีย์ในรอบชิงชนะเลิศที่รีโอเดจาเนโร 1–2 เซต[33] และถอนตัวจากการแข่งขันที่อากาปุลโกจากการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังอีกครั้ง[34]
อัลการัซคว้าชัยชนะครบ 100 นัดในอาชีพจากการชนะทาลลอน กรีกสปูร์อันดับ 31 จากเนเธอร์แลนด์ในมาสเตอร์ 1000 ที่อินเดียนเวลส์[35] ทำสถิตินี้ได้เร็วกว่าผู้เล่น Big 3 อย่างโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นาดัล และจอกอวิช ตามด้วยการเอาชนะซินเนอร์ และเมดเวเดฟในรอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศตามลำดับ ถือเป็นแชมป์รายการที่แปดในอาชีพ และรายการมาสเตอร์ 1000 ครั้งที่สามที่ได้แชมป์ และยังหยุดสถิติชนะรวดทุกรายการ 19 นัดของเมดเวเดฟลง และเป็นผู้เล่นคนแรกที่คว้าแชมป์ได้โดยไม่เสียเซตเลยทั้งรายการ นับตั้งแต่เฟเดอเรอร์ทำได้ใน ค.ศ. 2017 ส่งผลให้เขากลับสู่มือวางอันดับหนึ่งในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2023[36] ก่อนจะตกรอบรองชนะเลิศที่ไมแอมีซึ่งเขาเป็นแชมป์เก่า โดยแพ้คู่ปรับอย่างซินเนอร์ไปอีกครั้ง 1–2 เซต[37] และเสียตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่งกลับไปอีกครั้ง
เขาถอนตัวจากรายการคอร์ตดินที่มงเต-การ์โล จากอาการบาดเจ็บข้อมือ[38] ก่อนจะกลับมาเอาชนะซิทซีปัสในรอบชิงชนะเลิศที่บาร์เซโลนา ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จโดยไม่เสียเซตตลอดการแข่งขัน[39] ตามด้วยแชมป์รายการที่สิบในอาชีพ ด้วยแชมป์มาสเตอร์ที่มาดริดโดยเอาชนะยาน-เลนนาร์ด สตรัฟฟ์ชาวเยอรมัน และกลับขึ้นสู่มือวางอันดับหนึ่งหลังจากลงแข่งรอบที่สองในมาสเตอร์ที่กรุงโรม แต่เขาแพ้ในรอบที่สามให้กับฟาเบียน มารอซซานมือวางอันดับ 135 ชาวฮังการีอย่างเหนือความคาดหมาย[40][41] เขาเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเฟรนช์โอเพนเป็นครั้งแรกก่อนจะแพ้แชมป์อย่างจอกอวิช 1–3 เซตโดยมีอาการตะคริวในช่วงปลายการแข่งขันเซตที่สอง[42][43]
เข้าสู่การแข่งขันคอร์ตหญ้า อัลการัซคว้าแชมป์บนคอร์ตหญ้าได้เป็นครั้งแรกในรายการที่ควีนส์ ณ กรุงลอนดอน โดยเอาชนะอเล็กซ์ เด มินออร์ จากออสเตรเลีย เขาลงแข่งขันวิมเบิลดันในฐานะมือวางอันดับหนึ่ง และคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้เป็นครั้งที่สอง โดยเป็นการเอาชนะแชมป์เก่าสี่สมัยซ้อน และแชมป์เจ็ดสมัยอย่างจอกอวิช 3–2 เซต อัลการัซถือเป็นเพียงผู้เล่นคนที่สองต่อจากแอนดี มาร์รี ที่เอาชนะจอกอวิชได้ในรอบชิงชนะเลิศวิมเบิลดัน[44][45] ก่อนที่เขาจะแพ้จอกอวิชในรอบชิงชนะเลิศมาสเตอร์ 1000 ที่ซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ แม้เขาจะชนะในเซตแรกไปก่อน และขึ้นนำ 4–2 เกมในเซตที่สอง รวมทั้งได้คะแนน Championship Point ในไทเบรกเซตที่สอง การแข่งขันใช้เวลา 3 ชั่วโมง 49 นาที ถือเป็นรอบชิงชนะเลิศรายการมาสเตอร์ที่ใช้เวลาแข่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยอัลการัซแพ้ในการแข่งขันไทเบรกไปทั้งในเซตที่สองและเซตตัดสิน[46] อัลการัซลงแข่งขันยูเอสโอเพนแกรนด์สแลมสุดท้ายของปีในฐานะแชมป์เก่า แต่เขาตกรอบรองชนะเลิศด้วยการแพ้เมดเวเดฟ 1–3 เซต[47] หลังจากที่จอกอวิชคว้าแชมป์ได้ และจอกอวิชไม่มีคะแนนป้องกันเนื่องจากไม่ได้ลงแข่งในปีที่แล้ว
ต่อมา อัลการัซตกรอบการแข่งขันสามรายการติดต่อกันที่ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้ และมาสเตอร์ที่ปารีส เขาลงแข่งขันรายการสุดท้ายของปีในเอทีพี ไฟนอลที่ตูริน อิตาลีในเดือนพฤศจิกายนในฐานะมือวางอันดับสอง
เมนูนำทาง
การ์โลส อัลการัซ การเล่นอาชีพใกล้เคียง
การ์โลส อัลการัซ การ์โลส เตเบซ การ์โลส บักกา การ์โลส อากาโป การ์โลส ซันตานา การ์โลส โซเลร์ การ์โลส เอสลิม การ์โลส ซาลอม การ์โลส โกลอน ผู้พ่อ การ์โลส ซันเชซ โมเรโนแหล่งที่มา
WikiPedia: การ์โลส อัลการัซ https://www.atptour.com/en/players/carlos-alcaraz/... https://web.archive.org/web/20191006111209/https:/... http://www.protennislive.com/posting/ramr/career_p... https://web.archive.org/web/20190502040900/http://... http://www.atptour.com/en/players/carlos-alcaraz/a... https://web.archive.org/web/20210726030636/https:/... https://www.atptour.com/-/media/player-names/carlo... https://web.archive.org/web/20230412223748/https:/... https://www.atptour.com/en/news/carlos-alcaraz-yea... https://tennishead.net/carlos-alcaraz-the-greatest...